ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มีธุรกิจ SME ที่ปิดตัวลงหลังจากระยะเวลาผ่านไปเพียงแค่ 1 ปี ถึง 50% และยังมีอีกกว่า 95% ที่ปิดกิจการ หลังจากระยะเวลาผ่านไป 5 ปี ดังนั้นจึงควรที่จะมาเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ว่าเหตุใด SME ส่วนใหญ่จึงล้มเหลวและไม่สามารถอยู่รอดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
1.ไม่มีเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน
มากกว่า 72% ของ ธุรกิจ SME ไม่มีแผนธุรกิจในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้หากขาดการวางแผนการทางธุรกิจที่ดี (Business Plan) ย่อมก่อให้ปัญหาในการดำเนินธุรกิจได้ เพราะถ้าผู้ประกอบการยังไม่ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ผลิตภัณฑ์หรือบริการมีคุณค่ากับกลุ่มเป้าหมายอย่างไร รวมถึงไม่ทราบแผนการระยะสั้นและระยะยาวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบรายวันไปเรื่อยๆ อาจก่อเกิดปัญหาจากตัวแปรอื่นๆ ซึ่งสามารถทำให้ธุรกิจสะดุดได้ นอกจากนี้การมองไม่เห็นภาพใหญ่ของธุรกิจอย่างครอบคลุม ทำให้ขาดการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างราบรื่นในระยะยาว
2.ไม่แยกกระเป๋าธุรกิจกับกระเป๋าส่วนตัวและจัดทำข้อมูลทาง บัญชีอย่างไม่ถูกต้อง
มากกว่า 67% ของ SME มีพฤติกรรมไม่แยกกระเป๋าธุรกิจกับกระเป๋าส่วนตัวและมีการใช้เงินธุรกิจกับเงินส่วนตัวปะปนกัน มีการจัดทำข้อมูลทางบัญชีอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งข้อเสีย คือ นอกจากจะไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาของสถาบันการเงิน ในกรณีที่มีแผนการหาเงินทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตแล้ว ยังทำให้ไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว ต้นทุนของกิจการที่แท้จริงอยู่ที่เท่าไหร่และธุรกิจมีเงินหมุนเวียน (Cash Flow) เหลืออยู่ในธุรกิจเท่าใด
